ส่วนผสมเบเกอรี่ เทคนิคสำคัญที่ทำให้เบเกอรี่ให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมเบเกอรี่

ส่วนผสมเบเกอรี่

ลักษณะภายนอกของเบเกอรี่เป็นสิ่งสำสัญอย่างยิ่งที่ผู้บริโภคจะพิจารณาเป็นสิ่งแรก นอกจากนั้นจะเป็นกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ การเลือกใช้ส่วนผสมเบเกอรี่จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเพื่อให้ได้เบเกอรี่ที่แสนอร่อย

ส่วนผสมสำคัญของเบเกอรี่

1. แป้งสาลี (Wheat flour)
แป้งที่ใช้ทำขนมเบเกอรี่มีหลายชนิดสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ชนิด

  • แป้งอเนกประสงค์ (All purpose flour) เป็นแป้งอเนกประสงค์ทำมาจากข้าวสาลีชนิดแข็งและชนิดอ่อนผสมกัน โดยทั่วไปมีกลูเตนตั้งแต่ 8 ถึง 11 เปอร์เซ็นต์ แป้งอเนกประสงค์เหมาะสำหรับขนมอบทุกประเภท เช่น ขนมปัง ขนมปังอบ เค้ก พิซซ่า คุกกี้ มัฟฟิน ฯลฯ
  • แป้งขนมปัง (Bread flour)
    ลักษณะของแป้งขนมปังเนื้อแป้งมีสีขาวนวล เนื้อสัมผัสหยาบ เพราะทำจากขาวสาลีชนิดแข็งโดยทั่วไปมีกลูเตนตั้งแต่ 12 ถึง 16 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับทำแป้งพิซซ่า ขนมปังกรอบ เพรทเซิล เบเกิล และขนมอบ
  • แป้งเค้ก (Cake flour)
    เป็นแป้งเนื้อละเอีบดที่บดละเอียดทำจากข้าวสาลีชนิดอ่อน มีปริมาณโปรตีนต่ำกว่าแป้งอเนกประสงค์ โดยทั่วไปมีกลูเตนตั้งแต่ 5 ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ เนื้อเค้กที่ได้จะนุ่มมือ ขึ้นฟูได้ง่าย จึงนิยมนำมาทำเค้ก เช่น บัตเตอร์เค้ก ชิฟฟอน และสปันจ์เค้ก

2. หัวเชื้อ (Leavening Agents)

  • เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)
    เป็นสารช่วยเพิ่มฟองอากาศเล็กๆ ช่วยให้ขนมเกิดการขยายตัว ฟูขึ้น และที่สำคัญช่วยเพิ่มค่า pH ช่วยเพิ่มสีน้ำตาลเข้มที่สวยงามในขนมอบ ช่วยให้แป้งกระจายตัวและขอบกรอบมากขึ้น นิยมใช้ในการทำเค้ก ขนมปัง ขนมอบ คุกกี้
  • ผงฟู (Baking Powder)
    เป็นสารทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือฟองอากาศที่ทำให้ส่วนผสมของขนมนั้นเกิดการขยายตัว ฟูขึ้น และที่สำคัญช่วยลดค่า pH และทำให้โปรตีนอ่อนตัวลง ช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่แน่นขึ้น ขาวขึ้น และละเอียดยิ่งขึ้น นิยมใช้ในการทำเค้ก ขนมปัง ขนมอบ มัฟฟิน
  • ยีสต์ (Yeast)
    เป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นยีสต์ใช้สำหรับทำให้ขนมอบของเราขึ้นฟู เกิดกลิ่น เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม คงรูป นอกจากนี้ยังเพิ่มรสชาติให้กับขนมปัง โดยเฉพาะใช้สำหรับการอบ เช่น ขนมปังอบ ขนมปังก้อน โดนัท แป้งพิซซ่า

3. น้ำตาล (Sugar)
น้ำตาล เป็นสารให้ความหวานกับเบเกอรี่และช่วยเพิ่มสีน้ำตาลหลังจากการอบ สามารถเลือกใช้ได้ ดังนี้ น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว เหมาะสำหรับทำเค้ก ส่วนน้ำตาลผงเหมาะสำหรับทำไอซิ่ง หรือฟรอสติ้ง

4. เกลือ (Salt)
เกลือทำให้ขนมมีรสชาติดีขึ้น ปรับสมดุลความหวานในแป้งเค้ก ลดความขม ช่วยและควบคุมการทำงานของยีสต์ในการหมัก

5. เนยจืด (Butter)
เนยจืด เป็นส่วนผสมสำคัญในการอบที่ช่วยเพิ่มความหอมมัน รสชาติเข้มข้น ความนุ่ม และความชื้นให้กับขนมอบ นอกจากนี้ยังช่วยให้ขนมอบขึ้นฟูและอยู่ได้นานขึ้น

6. นม (Milk)
นม เป็นส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้รสชาติที่เข้มข้นกว่าการใช้นมไขมันต่ำ
รวมถึงนมช่วยให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันได้ดี เป็นตัวทำละลายน้ำตาล และเพิ่มความแน่น นุ่มฟูให้กับเนื้อเบเกอรี่

7. ไข่ไก่ (Chicken eggs)
ไข่ เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่สำคัญที่สุดในการทำขนมโดยเฉพาะไข่ไก่เหมาะสำหรับทำเบเกอรี่มากที่สุด เพราะไข่ช่วยให้ส่วนผสมรวมเข้าด้วยกัน ทั้งให้เนื้อสัมผัส สีขนมเข้มขึ้น และให้รสชาติที่ดี

8. กลิ่นรส (Flavor) หรือสารแต่งกลิ่นรส (Flavoring Agent)
เป็นการเติมกลิ่นจากธรรมชาติ สารสกัดแยกจากธรรมชาติ หรือสารที่เกิดจากการปรุงแต่งเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหารและสนองความต้องการด้านกลิ่นของผู้บริโภค

9. ผงไส้ขนมสำเร็จรูปตำหรับทอง
ผงไส้ขนมสำเร็จรูปสามารถทำเป็นไส้ได้ขนมนานาชนิดชาไทย นิยมนำไปใช้ทำขนมปัง ซาลาเปา มีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อมสีสันสวยงามเมื่อนำมาทำสังขยาชาไทยจึงมีความหอมนุ่มละมุน สีสวยน่ารับประทาน และที่สำคัญมีให้เลือกหลากหลายสูตร เช่น ผงไส้สังขยาใบเตย ผงไส้สังขยาชาไทย ผงไส้คอร์นคัสตาร์ด ผงไส้ถั่วทอง ผงไส้ถั่วแดง ผงไส้มันม่วง ผงไส้เผือก และผงใบหม่อนอบ

สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ ผงไส้ขนมสำเร็จรูปรสต่าง ๆ คลิ๊ก : @ Desserts Mate